คุณรู้หรือไม่? การเลือกซื้อรุ่นลําโพง marshallแต่ละชนิดนั้นมีทั้ง รุ่นลําโพง marshall นอกจากจะพิจารณาเรื่องของการใช้งานไม่ว่าจะเป็น งบประมาณ คุณภาพ ความทนทาน ชื่อเสียงของแต่ละรุ่นแล้ว ยังควรพิจารณาในเรื่องของพื้นที่ในการจัดวางและพื้นที่ใช้สอยในรุ่นลําโพง marshallอีกด้วย โดยวันนี้เราได้จัดอันดับ รุ่นลําโพง marshallแบบที่มีคุณภาพดีมีประสิทธิภาพมาให้คุณได้เลือกกันแล้ว ดังนี้
2. ประกัน 1ปี ลําโพงบลูทูธ Marshall Stockwell II w3 ลําโพง บลูทูธ เบส ลําโพง เบสหนักๆ ลําโพง bluetooth ดังๆ ลลําโพงบลูทูธ ลําโงบลูทูธ ลําผโพงบรูทูธ ลําฟ
ประกัน 1ปี ลําโพงบลูทูธ Marshall Stockwell II w3 ลําโพง บลูทูธ เบส ลําโพง เบสหนักๆ ลําโพง bluetooth ดังๆ ลลําโพงบลูทูธ ลําโงบลูทูธ ลําผโพงบรูทูธ ลําฟโพงบูลทูธ ส่งฟรี
3. MARSHALL Willen Black And Brass&Cream - ลําโพงบลูทูธ ลําโพงบลูทูธพกพา ลําโพง ลําโพงบลูทูธเบสหนัก marshall รับประกัน 1 ปี
-15+ HOURS OF PORTABLE PLAYTIME ใช้งานต่อเนื่องได้นานกว่า 15 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง -STACK MODE สามารถเชื่อมต่อ Willen หลายเครื่องพร้อมกัน -BUILT-IN MICROPHONE ปุ่ม Control Knob กดรับหรือปฏิเสธสายพร้อมไมโครโฟนในตัว -BLUETOOTH 5.1 เชื่อมต่อไร้สายด้วยเทคโนโลยยี 5.1 -ATTACH ANYWHERE WITH THE STRAP พร้อมใช้ Willen ทุกสถานการณ์ด้วยสายรัดอเนกประสงค์ Marshall
4. Marshall ลําโพง รุ่น Kilburn II (Black & Br)
5. ลําโพงบลูทูธเบสซับวูฟเฟอร์ Marshall Stanmore ไร้สายแบบพกพาเสียงขนาดใหญ่กลางแจ้งแบบพกพาลําโพงบลูทูธของแท้
mashall. Stanmore II Bluetooth-Black White Brown. ลําโพงที่เป็นที่กล่าวขานในตํานาน. Stanmore II เป็นลําโพงที่ถูกกล่าวขานในทุก ๆ ด้านจากลําโพงทุกรุ่นของ Marshall และเหมาะกับการใช้งานในทุกสถานที่ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ก็ให้เสียงคุณภาพสูงที่มีรายละเอียดครบครันตามแบบฉบับของ Marshall ลําโพงรุ่น Stanmore II ให้เสียงที่คมชัดและเคลียร์ใสในระดับที่สูงที่สุด ด้วยส่วนประกอบอันเหนือชั้นอย่างแอมปลิฟายเออร์คลาส D กําลังขับ 15 วัตต์ 2 ตัวที่ให้พลังงานกับลําโพงทวีตเตอร์ รวมไปถึงแอมปลิฟายเออร์คลาส D กําลังขับ 50 วัตต์ อีก 1 ตัว ให้พลังงานกับลําโพงซับวูฟเฟอร์ที่ทรงพลัง มาพร้อมกับเทคโนโลยี Bluetooth 5.0 และ Qualcomm aptX ที่ช่วยให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงแบบ stereo ได้อย่างไม่ต้องกังวลเรื่องสายเชื่อมต่ออีกต่อไป นอกจากนี้ ลําโพงรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับดีเทลสุดคลาสสิคของ Marshall เช่น หนังพิมพ์ลายอย่างดีที่บุรอบตัวลําโพง, ตะแกรงครอบด้านหน้าลําโพงแบบ salt pepper และโลโก้ตัวอักษรอันเป็นเอกลักษณ์ที่ประดับอยู่บนกรอบไม้ที่แข็งแรงของ Stanmore II นอกจากจะมีโลโก้ประดับที่ด้านหน้าของลําโพงแล้วยังมีแผ่นทองเหลืองสลักปีที่ก่อตั้งแบรนด์ขึ้นมา นั่นก็คือปี 1962 ดีเทลเล็ก ๆ ทั้งหมดนี้เป็นมรดกตกทอดของผู้นําด้านเสียงดนตรียาวนานกว่า 50 ปี. ให้เสียงที่ทรงพลังยิ่งกว่า. Stanmore II เป็นลําโพงที่ถูกกล่าวขานในทุก ๆ ด้านจากลําโพงทุกรุ่นของ Marshall และเหมาะกับการใช้งานในทุกสถานที่ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ II ให้เสียงที่คมชัดและเคลียร์ใสในระดับที่สูงที่สุด ด้วยส่วนประกอบอันเหนือชั้นอย่างแอมปลิฟายเออร์คลาส D กําลังขับ 15 วัตต์ 2 ตัวที่ให้พลังงานกับลําโพงทวีตเตอร์ รวมไปถึงแอมปลิฟายเออร์คลาส D กําลังขับ 50 วัตต์ อีก 1 ตัว ให้พลังงานกับลําโพงซับวูฟเฟอร์ที่ทรงพลัง รวมทั้งห้องลําโพงที่ทําจากไม้ทําให้ได้เสียงที่อบอุ่นและเป็นธรรมชาติ และระบบสะท้อนเสียงเบสที่มีพอร์ตช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแม้เป็นเสียงความถี่ต่ํา. เชื่อมต่ออย่างไร้สายด้วยเทคโนโลยี Bluetooth 5.0 และ aptX. เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงของคุณพร้อมกับความอิสระที่คุณจะสามารถเดินไปที่ไหนก็ได้ในบ้านขณะฟังเพลงโดยไร้การรบกวนด้วยเทคโนโลยี Bluetooth 5.0 และ aptX เทคโนโลยีที่จะให้เสียงเพลงแบบไร้สาย ไม่ขาดหาย ได้ในระยะไกลสุดโดยที่ยังเชื่อมต่อได้อยู่ถึง 30 ฟุต 10 เมตร คุณสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ท หรือคอมพิวเตอร์โดยตรง เพื่อฟังเพลงได้โดยที่ไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อ. ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Marshall. ลําโพงรุ่นนี้มาพร้อมกับดีเทลสุดคลาสสิคของ Marshall เช่น หนังพิมพ์ลายอย่างดีที่บุรอบตัวลําโพง, ตะแกรงครอบด้านหน้าลําโพงแบบ salt pepper และโลโก้ตัวอักษรอันเป็นเอกลักษณ์ที่ประดับอยู่บนกรอบไม้ที่แข็งแรง นอกจากจะมีโลโก้ประดับที่ด้านหน้าของลําโพงแล้วยังมีแผ่นทองเหลืองสลักปีที่ก่อตั้งแบรนด์ขึ้นมา นั่นก็คือปี 1962 ดีเทลเล็ก ๆ ทั้งหมดนี้เป็นมรดกตกทอดของผู้นําด้านเสียงดนตรียาวนานกว่า 50 ปี คุณจะอยากวางมันไว้ในทุก ๆ ห้องและใช้งานอย่างภาคภูมิใจ. ปรับแต่งเสียงได้ในแบบของคุณ. ปรับแต่งเสียงดนตรีได้ด้วยตัวคุณเอง เพียงใช้แอปพลิเคชัน Marshall Bluetooth หรือปรับด้วยลูกบิดบนแผงควบคุมซึ่งอยู่ด้านบนตัวลําโพง เพื่อให้เสียงออกมาเป็นแบบที่คุณต้องการเหมาะกับสถานที่ใช้งานได้อย่างใจ โดยคุณสามารถปรับได้ทั้งระดับความดัง, โทนเสียงแหลมและเสียงเบสด้วยลูกบิดทองเหลือง หรือใช้แอปพลิเคชัน Marshall Bluetooth ที่มาพร้อมกับ equaliser ในตัว เพื่อใช้ในกรณีที่คุณอยู่ไกล ไม่สามารถปรับที่แผงควบคุมได้โดยตรง. การเชื่อมต่อด้วยสาย. นอกจากการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 แล้ว คุณยังสามารถเชื่อมต่อด้วยสาย RCA หรือสายขนาด 3.5 มิลลิเมตรได้ ให้คุณสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งเครื่องเล่นแผ่นเสียง, เครื่องเล่นเทปคาสเซท หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การฟังเพลงแบบย้อนยุคได้อย่างง่ายดาย โดยสายจะขายแยกกับตัวลําโพง. ฟังก์ชันการใช้งานแบบ Multi-host. ลําโพงรุ่นนี้มีฟังก์ชันการใช้งานแบบ Multi-host ให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่มี Bluetooth ได้ 2 เครื่องพร้อมกัน และยังสามารถสลับเปลี่ยนอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย ให้คุณและเพื่อนของคุณได้สลับกันฟังตามสไตล์ของแต่ละคนได้ทันที. แอปพลิเคชัน Marshall Bluetooth. นอกจากการควบคุมลําโพงด้วยลูกบิดบนแผงควบคุมแล้ว คุณยังสามารถใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน Marshall Bluetooth เพื่อควบคุมลําโพงและปรับแต่งเสียงเพลงด้วยตัวคุณเองได้อีกด้วย โดยคุณสามารถใช้งานได้ทั้งการเลือก preset ของ equaliser ที่ถูกตั้งค่ามาให้แล้ว, ตั้งค่าโหมดการทํางานแบบ stereo หรือ ambient รวมไปถึงการปรับค่าความเข้มของแสง LED บนแผงควบคุม นอกจากนั้นคุณยังสามารถเปิดการใช้งานหรือตั้งค่าให้ลําโพงของคุณอยู่ในโหมด standby ได้ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที. โดยภายในกล่องนั้นมีอุปกรณ์มาให้ดังนี้. Marshall Stanmore II Bluetooth. Charger cable. User Manual. Stanmore II Bluetooth-Black White Brownลําโพงที่เป็นที่กล่าวขานในตํานานStanmore II เป็นลําโพงที่ถูกกล่าวขานในทุก ๆ ด้านจากลําโพงทุกรุ่นของ Marshall และเหมาะกับการใช้งานในทุกสถานที่ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ก็ให้เสียงคุณภาพสูงที่มีรายละเอียดครบครันตามแบบฉบับของ Marshall ลําโพงรุ่น Stanmore II ให้เสียงที่คมชัดและเคลียร์ใสในระดับที่สูงที่สุด ด้วยส่วนประกอบอันเหนือชั้นอย่างแอมปลิฟายเออร์คลาส D กําลังขับ 15 วัตต์ 2 ตัวที่ให้พลังงานกับลําโพงทวีตเตอร์ รวมไปถึงแอมปลิฟายเออร์คลาส D กําลังขับ 50 วัตต์ อีก 1 ตัว ให้พลังงานกับลําโพงซับวูฟเฟอร์ที่ทรงพลัง มาพร้อมกับเทคโนโลยี Bluetooth 5.0 และ Qualcomm aptX ที่ช่วยให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงแบบ stereo ได้อย่างไม่ต้องกังวลเรื่องสายเชื่อมต่ออีกต่อไป นอกจากนี้ ลําโพงรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับดีเทลสุดคลาสสิคของ Marshall เช่น หนังพิมพ์ลายอย่างดีที่บุรอบตัวลําโพง, ตะแกรงครอบด้านหน้าลําโพงแบบ salt pepper และโลโก้ตัวอักษรอันเป็นเอกลักษณ์ที่ประดับอยู่บนกรอบไม้ที
6. MARSHALL ลําโพง รุ่น Stockwell II Bluetooth Speaker (Black&Brass)
MARSHALL ลําโพงแบบพกพา Bluetooth Speaker รุ่น Stockwell II Black and Brass • ลําโพงพกพาไร้สาย Bluetooth • รูปทรงสุดคลาสสิค วัสดุพรีเมียม • ขับเสียงแบบ Multi-Directional Sound • เชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 • Volume Knob ปรับเสียงสุดเท่ • แบตเตอรี่ใช้งานยาวนาน 20 ชั่วโมง+ • กันน้ํากันฝุ่นมาตรฐาน IPX4 • เชื่อม Smartphone ได้พร้อมกัน 2 ตัว ภายในกล่อง ประกอบด้วย • MARSHALL STOCKWELL II • สาย USB-C • คู่มือการใช้งาน การรับประกัน • สินค้ารับประกัน 1 ปี คําแนะนําและข้อควรระวัง • ควรศึกษาข้อมูลของผลิตภัณฑ์ เงื่อนไขการรับประกันอย่างละเอียด และปฏิบัติตามคําแนะนํา เพื่อการใช้งานได้อย่างถูกต้อง • ระวังให้ห่างจากเปลวไฟ ความร้อน และแสงแดด • วางให้ห่างจากบริเวณที่เปียกชื้น • ควรใช้งานร่วมกับปลั๊กไฟและอุปกรณ์เชื่อมต่อที่ได้มาตรฐาน • หากสินค้าชํารุด ไม่ควรถอดประกอบหรือซ่อมแซมด้วยตนเอง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือช่างผู้ชํานาญ • ไม่ควรสัมผัสกับอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดในขณะที่ร่างกายเปียก ลําโพง MARSHALL รุ่น Stockwell II สี Black and Brass ลําโพงไร้สาย ดีไซน์คลาสสิกอมตะ MARSHALL Stockwell II ลําโพงไร้สาย ราคาดีสมกับความเป็นแบรนด์เครื่องเสียงชื่อดัง ด้วยราคาขนาดนี้แต่ได้สินค้าที่เป็นส่วนผสมของความคลาสสิกและความทันสมัย เหมาะสําหรับผู้ที่กําลังมองหา ลําโพงไร้สายดีไซน์คลาสสิกแบบมาร์แชล รุ่นนี้ได้อัพเกรดให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น ระบบเชื่อมที่สามารถทําได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้วัสดุระดับพรีเมี่ยมตั้งแต่ตัวลําโพง จนถึงหูหิ้วพกพา ที่ช่วยสร้างความเรียบเท่ให้กับลําโพงรุ่นนี้ ที่สําคัญยังกันน้ํากันฝุ่นด้วยมาตรฐาน IPX4 มอบประสบการณ์ผ่านเสียงแบบล้ํา ๆ ทั่วทุกมุมผ่านระบบ Multi-Directional รองรับการเชื่มต่อพร้อมกัน 2 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน ใช้งานไร้สายได้ยาวนานถึง 20 ชั่วโมง เป็นลําโพงคลาสสิกอีกหนึ่งรุ่นที่น่าครอบครองเป็นเจ้าของ จากแบรนด์เครื่องเสียง สู่แก็ดเจ็ตที่มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ Jim Marshall นักดนตรีและช่างซ่อมเครื่องดนตรีชาวอังกฤษ ผู้เริ่มต้นจากการผลิตแอมป์กีตาร์ จนกลายมาเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องเสียงชั้นนําระดับโลก Marshall เปิดตัวหูฟังไร้สายรุ่นแรกอย่าง Major II ในปี ค.ศ. 2016 ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากแอมป์กีตาร์ของแบรนด์ที่ผลิตขายในช่วงปี 60-70's ซึ่งได้รับความนิยมถล่มทลายทั้งจากในและต่างประเทศ จนทยอยเข็นรุ่นอื่น ๆ ที่มีฟังก์ชันการใช้งานแตกต่างกัน ตามออกมา อาทิ Marshall Mode II, Monitor II กระทั่ง 3 ปีต่อมา ก็ถึงคิวของลําโพงไร้สายรุ่นแรก ที่ใช้ชื่อรุ่นว่า Stanmore II ทั้งภาพลักษณ์และดีไซน์ เรียกได้ว่าไม่ต่างจากลําโพงในรูปลักษณ์ของแอมป์กีตาร์เลยทีเดียว แล้วด้วยความสําเร็จของลําโพงไร้สายรุ่นนี้ แบรนด์ก็ไม่รอช้าผลักเอารุ่นถัด ๆ ไปที่มีขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกันออกมาอย่าง Acton II, Kilburn II และ Emberton ด้วยดีไซน์คลาสสิกแบบจับต้องได้ ทําให้หูฟังและลําโพงมาร์แชลเป็นที่นิม ทั้งจากเหล่านักดนตรี คนรักเสียงเพลง และคนที่รักในความคลาสสิกของแบรนด์ Marshall